มูสช็อกโกแลต สูตรวีแกน
มูสช็อกโกแลต สูตรวีแกนนี้มีความเข้มข้น และนุ่มละมุน สูตรนี้ใช้เต้าหู้ไหมซึ่งเป็นส่วนผสมที่เป็นตัวเอกในของหวานเพราะให้เนื้อครีมและมีรสหวาน รสอ่อนๆ ของมันยังช่วยให้ส่วนผสมอื่นๆ เปล่งประกายในสูตรนี้ ช็อคโกแลต! นี่เป็นหนึ่งในสามีของฉัน คือ Mitch’s ของหวานสุดโปรดตลอดกาล และของหวานที่ทำให้เขาเชื่อว่าในช่วงเปลี่ยนผ่านช่วงแรกๆ นั้น เรายังคงเพลิดเพลินกับสูตรอาหารที่เราโปรดปรานโดยใช้อาหารจากพืชเป็นหลัก
เบอร์เกอร์สเต็กและน้ำเกรวี่เห็ด JOLLIBEE STYLE เมนูแนะนำทานคู่กันฟิน
วัตถุดิบ
- ดาร์กช็อกโกแลต 70% 2 บาร์ (7 ออนซ์/200 กรัมต่อชิ้น) แบ่งเป็นชิ้น
- น้ำมันมะพร้าว 1 ช้อนชา
- เต้าหู้ไหม 2 บล็อก (12 ออนซ์/340 กรัมต่อชิ้น)
- น้ำเชื่อมเมเปิ้ลบริสุทธิ์ ¼ ถ้วย + 2 ช้อนโต๊ะ
- ผงโกโก้ ¼ ถ้วย
- สารสกัดวานิลลาบริสุทธิ์ 2 ช้อนชา
- เกลือทะเลละเอียด ½ ช้อนชา
- นมอัลมอนด์ไม่หวาน 4 ถึง 6 ช้อนโต๊ะ เพิ่มตามต้องการ
- เกลือทะเลที่เป็นขุยสำหรับโรย
คำแนะนำ มูสช็อกโกแลต สูตรวีแกน
- ในกระทะขนาดเล็กนำน้ำ 2 นิ้วไปเคี่ยวด้วยไฟอ่อน วางชามแก้วทนความร้อนขนาดเล็กไว้บนหม้อ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าก้นชามไม่ได้สัมผัสกับน้ำ ใส่ดาร์กช็อกโกแลตและน้ำมันมะพร้าวแล้วละลายช็อกโกแลต คนบ่อยๆ จนเนียนสนิท ตั้งไฟอ่อนจนพร้อมใช้งาน (อีกวิธีหนึ่งคือ คุณสามารถละลายช็อกโกแลตในไมโครเวฟได้ในช่วงเวลา 30 วินาที คุณสามารถสำรองช็อกโกแลตชิ้นหนึ่งแล้วหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ 1 ถึง 2 ช้อนโต๊ะสำหรับโรยหน้าได้)
- โอนเต้าหู้ไหมลงในถุงนมถั่ว (หรือผ้าเช็ดครัวบาง ๆ รวบรวมมุมให้เป็นกระสอบขนาดเล็ก) บีบถุงด้วยมือเพื่อเอาน้ำออกให้หมด (ไม่ต้องบีบแรงเกินไปให้น้ำออก บีบยากก็หยุดได้)
- โอนเต้าหู้บีบไปยังเครื่องเตรียมอาหาร ใส่น้ำเชื่อมเมเปิ้ล ผงโกโก้ วานิลลาสกัด เกลือ และช็อกโกแลตละลาย เทนมอัลมอนด์ 4 ช้อนโต๊ะ ผสมให้เข้ากันจนเนียน ใส่นมอัลมอนด์เพิ่มทีละน้อยถ้าความข้นข้นเกินไป มันควรจะเป็นพุดดิ้ง มันจะข้นขึ้นเล็กน้อยเมื่อเย็น
- ตักมูสลงในชามขนาดกลางแล้วปิดด้วยแรปที่นำกลับมาใช้ใหม่ได้ แช่ตู้เย็นอย่างน้อย 2 ชั่วโมง ตักใส่ชามขนาดเล็กหรือถ้วยแก้วแล้วโรยด้วยเกลือทะเลที่เป็นขุยและเศษช็อคโกแลตที่สำรองไว้หากต้องการ
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
Credit ufa168
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *