ฟักทองและเบคอนยัดไส้ portobellos กับเนยสีน้ำตาล
ฟักทองและเบคอนยัดไส้ portobellos กับเนยสีน้ำตาล นี่ฉันไปบรรจุอะไรบางอย่างอีกครั้ง ดูเหมือนว่าฉันกำลังหมกมุ่นอยู่กับการบรรจุสิ่งของอย่างอื่น เช่น อะโวคาโดกับไข่วิเศษ ปอร์โตเบลโลกับคาปรีเซ่โบโลเนสในมันฝรั่งหวานผักโขม และริคอตต้าลงในแคนเนลโลนีบวบและแน่นอน มะเขือยาวยัดไส้ อีกหนึ่งเมนูโปรดของฉัน
ฟักทองและเบคอนยัดไส้ portobellos กับเนยสีน้ำตาล
วัตถุดิบ
- เนย 1/2 ถ้วย
- ใบสะระแหน่ 1/4 ถ้วย (เอาก้านออก)
- น้ำมันมะกอก 1 ช้อนโต๊ะ
- ฟักทองหั่นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า 2 ถ้วย (บัตเตอร์นัทหรือเค็นท์)
- กระเทียมกลีบใหญ่ 4 กลีบ บด
- เบคอนหั่นเต๋า 1/2 ถ้วยตวง
- เกลือเม็ดใหญ่
- ชีสแพะ 100 กรัม
- เห็ดพอร์โทเบลโล 4 ชิ้น ล้าง ตากให้แห้งและเอาก้านออก
คำแนะนำ
- เปิดเตาอบที่ 180°C | 356 องศาฟาเรนไฮต์ วางถาดอบสองถาดด้วยกระดาษรองอบหรือฟอยล์อลูมิเนียม กัน
- รวมเนยและใบสะระแหน่ครึ่งหนึ่งในกระทะขนาดเล็ก (หรือกระทะ) แล้วละลายด้วยไฟแรง ปล่อยให้เนยละลายประมาณ 3 นาทีหรือจนหอม
- ในถาดแรก รวมฟักทองหั่นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า กระเทียม และเบคอนเข้าด้วยกัน โรยด้วยเกลือเพื่อปรุงรส ฝนตกปรอยๆบนเนยละลายและน้ำมันแล้วโยนให้เคลือบอย่างสม่ำเสมอ ย่างเป็นเวลา 30 นาที ผสมฟักทอง 1 ครั้งระหว่างการปรุงอาหาร โรยบนชีสแพะ เปลี่ยนการตั้งค่าเตาอบเป็นย่าง (หรือย่าง) ด้วยไฟปานกลางและปรุงอาหารต่อไปจนฟักทองกรอบเล็กน้อยที่ขอบและนุ่มตรงกลาง
- ขณะที่ฟักทองกำลังย่างอยู่ ให้วางพอร์โทเบลลอสบนถาดที่สอง (คว่ำลง); พ่นด้วยสเปรย์น้ำมันปรุงอาหารและอบในเตาอบเป็นเวลา 20 นาที เมื่อย่างแล้วให้สะเด็ดน้ำออกจากด้านในฝาแล้วพักไว้ (ถ้าใส่ถาดเข้าเตาอบได้ทั้งสองถาด ก็อบพร้อมกันได้)
- ในขณะเดียวกัน ให้ผสมเนยที่เหลือและใบสะระแหน่ในกระทะ/กระทะเดียวกันด้วยไฟแรง เมื่อเนยละลายและเริ่มเป็นฟอง ให้ลดความร้อนลงเหลือปานกลางและยังคงเป็นฟองต่อไป โดยคนเป็นระยะๆ จนเนยเริ่มเปลี่ยนสีและมีกลิ่น ‘บ๊อง’ นำออกจากเตาทันทีเพื่อป้องกันการไหม้
- แบ่งส่วนผสมฟักทอง / เบคอน 4 และช้อนลงในแต่ละฝา portobello ราดเนยสีน้ำตาลที่ด้านบนและตกแต่งด้วยใบสะระแหน่กรอบ
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
Credit แทงบอล
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *