ผักโขมผัดโกจิเบอร์รี่ คุณค่าทางโภชนาการ
ผักโขมผัดโกจิเบอร์รี่ มีคุณค่าทางโภชนาการสูงซึ่งประกอบด้วยวิตามิน A, B2, B6, C, K, แร่ธาตุต่างๆ เช่น โฟเลต แคลเซียม เหล็ก โพแทสเซียม สังกะสี แมงกานีส และอื่นๆ เพื่อการเจริญเติบโตของฟันและกระดูก ป้องกันตะคริวของกล้ามเนื้อ เพิ่มเซลล์เม็ดเลือดแดง และเพิ่มความจุของออกซิเจน สำหรับผู้ใหญ่ เรากิน Chinese Spinach บ่อยมากด้วย
อย่างไรก็ตาม มันไม่เหมาะที่จะรับประทานโดยผู้ที่เป็นโรคเกาต์และโรครูมาติซั่ม เนื่องจากมีกรดอินทรีย์ในปริมาณสูง
ผักโขมจีนแบ่งออกเป็นประเภทต่างๆ ผักโขมที่พบมากที่สุดควรเป็นผักโขมสีเขียวล้วน และผักโขมที่มีเครื่องหมายสีม่วงหรือสีแดงตรงกลางใบ ความหวานตามธรรมชาติของวูลเบอร์รี่
การเพิ่มวูลฟ์เบอร์รี่ลงในจานทำให้การกัดโดยรวมน่าสนใจยิ่งขึ้นและสัมผัสในปากที่ดีขึ้น นอกจากนี้ยังนำเสนอความน่าดึงดูดยิ่งขึ้นด้วยสีเพิ่มเติมที่ด้านบนของกรีน
ไม่ใช่แค่ความหวานของ Wolfberry ที่ทำให้จานนี้อร่อยยิ่งขึ้น Wolfberry มีสารอาหารที่มีคุณค่าทั้งแร่ธาตุอาหาร วิตามิน และกรดอะมิโนที่ตรวจสอบย้อนกลับได้ ซึ่งไม่ควรมองข้าม ชาวจีนกล่าวว่าการบริโภคเป็นสิ่งสำคัญเพื่อรักษาวิสัยทัศน์ที่ดี
ส่วนผสม
ผักโขมจีน ประมาณ 500 กรัม
วูล์ฟเบอร์รี่ 1 ช้อน
กระเทียม 4 กลีบฝานบางหรือสับละเอียด
โรยเกลือ
น้ำมันปรุงอาหาร 1 ช้อนโต๊ะ
- อินทผาลัมจีน เป็นยาบำรุงสุขภาพ อ่านต่อได้ที่นี่
ผักโขมผัดโกจิเบอร์รี่ และวิธีการทำ
ตัดขอบรากของผักโขมจีน ล้างและนำชั้นนอกของเส้นใยบนลำต้นออก หั่นผักตามยาว
ตั้งน้ำมันในกระทะบนไฟแรง ใส่กระเทียมลงผัดประมาณ 30 วินาที หรือจนหอมและเหลืองเล็กน้อย
ใส่ผักอย่างรวดเร็ว พรมน้ำเล็กน้อย แล้วผัด 1 นาที
ใส่วูลเบอร์รี่แล้วผัดต่ออีก 1 นาที โรยเกลือแล้วทอดต่อไปอีก 20 วินาทีก่อนปิดไฟ เสิร์ฟร้อน เนื่องจากผักโขมจีนอ้างว่าส่งเสริมการไหลเวียนโลหิตจึงช่วยในการควบคุมน้ำหนักด้วย ปริมาณแคลอรี่ในผักโขมจานนี้ในปริมาณที่เหมาะสมให้พลังงานน้อยกว่า50กิโลแคลอรี ซึ่งเป็นพลังงานที่น้อยมากคนที่ต้องการควบคุมน้ำหนักสามารถทานได้
อาหารจานนี้คุณสามารถทำเป็นอาหารมังสวิรัติได้ เมนูนี้ทำง่ายมาก อาหารจีนส่วนมากเป็นอาหารเพื่อสุขภาพเช่นอาหารจานนี้ ให้ประโยชน์มากมาย
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
Credit แทงบอล
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *