ถั่วแระญี่ปุ่นรสเผ็ด
ถั่วแระญี่ปุ่นรสเผ็ด กระเทียมและเนยกับซอสศรีราชาบัฟฟาโล นี่เป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมในการปรุงรสมากมายโดยไม่ต้องเพิ่มไขมันหรือแคลอรี!
ซอสรสเผ็ดเป็นจุดอ่อนของฉัน เพราะเป็นซอสที่ฉันหลงใหล เมื่อไหร่ก็ตามที่ฉันได้กลิ่นน้ำส้มสายชู พริก ซอสกระเทียม ท้องของฉันก็เริ่มส่งเสียงคำรามทันที
ฉันชอบ ซอสบัฟฟาโลวิงส์มากถึงขนาดกินเป็นซอสจิ้มกับดอกกะหล่ำย่าง ทาบนเนื้อวัวและเต้าหู้ แล้วโปะด้วยถั่วแระญี่ปุ่น
ทำให้เป็นของว่างที่น่าประทับใจสำหรับเสิร์ฟในงานปาร์ตี้ครั้งต่อไปของคุณ น่าตื่นเต้นกว่าฝักเค็มแบบคลาสสิกมาก และใช้เวลาเพียง 10 นาทีในการทำตั้งแต่ต้นจนจบ!
ปรุงรสถั่วแระได้โดยโรยเกลือและพริกไทยหรือส่วนผสมอื่นๆ เช่นโนริแผ่นฝอยและโบนิโตเกล็ด (หนึ่งในการเตรียมถั่วแระญี่ปุ่นที่ฉันชอบ) ด้านบน โยนลงในน้ำมันงาคั่วและซีอิ๊วขาวเล็กน้อย หรือผัดในกระทะอย่างรวดเร็ว เพื่อให้ซอสเกาะติดได้ดีขึ้น
จากนั้นคุณสามารถดูดฝักออก ทิ้งผิวหนัง และเลียนิ้วเหมือนที่ทำกับปีกไก่!
การหาฝักถั่วแระญี่ปุ่นนั้นง่ายมากในทุกวันนี้ แบรนด์ที่ฉันใช้คือ Seapoint Farms แต่แบรนด์ใดก็ได้ที่จะทำ เพียงให้แน่ใจว่าคุณซื้อมันในฝักแทนที่จะเป็นเปลือก
ถั่วแระญี่ปุ่นราดซอสศรีราชาบัฟฟาโลจะดีที่สุดเมื่อเสิร์ฟจากกระทะทันที (เนื่องจากคุณจะได้กลิ่นรสเผ็ดและเนยที่โชยออกมาจากชาม) แต่คุณมีตัวเลือกในการแช่เย็นไว้ใช้ในภายหลัง
- พายผักโขมมังสวิรัติ เรียนรู้วิธีทำ
เป็นของว่างเพื่อสุขภาพที่ดีเยี่ยม เนื่องจากถั่วแระญี่ปุ่นมีโปรตีนและไฟเบอร์สูง มีน้ำตาลและไขมันต่ำ
คุณชอบถั่วแระสูตรซอสศรีราชาบัฟฟาโลนี้หรือไม่? มีการเปลี่ยนแปลงที่คุณทำและต้องการแบ่งปันหรือไม่? แบ่งปันเคล็ดลับและคำแนะนำของคุณในส่วนความคิดเห็นด้านล่าง!
วัตถุดิบ ถั่วแระญี่ปุ่นรสเผ็ด
- เนย 1 ช้อนโต๊ะ
- กระเทียม 1 กลีบ (สับละเอียด)
- ซอสศรีราชา 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำส้มสายชูขาว 1 ช้อนโต๊ะ
- ถั่วแระแช่แข็ง 2 ถ้วย
- เกลือและพริกไทย
คำแนะนำ
- ตั้งหม้อต้มน้ำแล้วใส่ถั่วแระญี่ปุ่น ต้มประมาณ 5-6 นาที หรือตามวิธีการห่อ ระบายน้ำได้ดีและพักไว้
- ผสมซอสศรีราชาและน้ำส้มสายชูขาวในชามแล้วพักไว้
- ในกระทะขนาดกลางบนไฟสูงปานกลาง ใส่เนยและกระเทียมลงไปผัดประมาณ 1 นาทีจนกระเทียมมีกลิ่นหอม
- ใส่ส่วนผสมซอสศรีราชาลงไปผัด
- ใส่ฝักถั่วแระญี่ปุ่นแล้วโยนจนฝักสุกทั่วกัน
- ปิดไฟ ปรุงรสด้วยเกลือและพริกไทย พร้อมเสิร์ฟ
Credit แทงบอลออนไลน์
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *