ไก่ยัดไส้มะเขือเทศตากแห้งเฟตต้าเบคอน


ไก่ยัดไส้มะเขือเทศตากแห้งเฟตต้าเบคอน สะโพกไก่ยัดไส้เบคอนนุ่ม ผักโขม และซอสเพสโต้มะเขือเทศซันดราย ย่างจนสุกพร้อมเสิร์ฟกับเครื่องเคียงที่คุณเลือกได้ ไก่ก็ฉ่ำมาก เบคอนนุ่มมาก โดยส่วนที่ยื่นออกมาที่เรากรอบจนเป็นเบคอนกรอบที่สมบูรณ์แบบ และเฟตต้าชีส ข้างในครีมมี่มากๆ กับเพสโต้มะเขือเทศตากแห้ง ทำให้เกิดรสชาติที่แตกต่างกัน ซึ่งทุกคำกัดจะมาพร้อมกับเสียงคร่ำครวญที่คุณเพิ่งรู้ว่านี่เป็นสิ่งที่ดี ซุปหัวหอมฝรั่งเศส อีกเมนูน่าสนใจ

วัตถุดิบ

  • น่องไก่ไม่มีกระดูกและหนัง 6 ชิ้น ตัดแต่งไขมันที่มองเห็นได้ทั้งหมด
  • ผงสต็อกผัก 3 ช้อนชา (ปุ๊กใช้เบจิต้าค่ะ)
  • เกลือเพื่อลิ้มรส
  • ผงกระเทียมเพื่อลิ้มรส
  • เพสโต้มะเขือเทศตากแห้ง 3 ช้อนโต๊ะ แบ่งออก (หรือจะใช้ซอสมะเขือเทศก็ได้)
  • เบคอน 6 ชิ้น shortcut
  • เฟตต้าชีสลดไขมันก้อน ขนาด 1 นิ้ว 12 ก้อน
  • ผักโขมสด 24 ใบ
  • ผัดน้ำมันมะกอกกระเทียม
ไก่ยัดไส้มะเขือเทศตากแห้งเฟตต้าเบคอน

คำแนะนำ ไก่ยัดไส้มะเขือเทศตากแห้งเฟตต้าเบคอน

  1. เปิดเตาอบที่ 220C | 425F.
  2. วางไก่บนกระดาน/พื้นผิวการทำงาน วางเนื้อแต่ละชิ้นให้แบนแล้วโรยด้วยผงสต็อกผัก 1/2 ช้อนชาต่อเนื้อ เกลือเพื่อปรุงรสและผงกระเทียม (เพียงพอสำหรับต่อมรับรสของคุณ) ถูเครื่องปรุงรสลงในเนื้อ
  3. ทาซอสเพสโต้มะเขือเทศ 1/2 ช้อนโต๊ะ (หรือพาสต้า) ต่อเนื้อ ลงบนต้นขาไก่แต่ละข้าง
  4. วางเบคอนชิ้นหนึ่งบนเนื้อไก่แต่ละชิ้น และผักโขมสี่ใบต่อเนื้อ วางเฟตต้าชีส 2 ก้อนลงบนต้นขาแต่ละข้าง
  5. ม้วนอกไก่แต่ละชิ้นขึ้นอย่างแน่นหนา (โดยให้ความกว้าง/ด้านที่เล็กที่สุดหันเข้าหาตัวคุณ) และยึดด้วยไม้จิ้มฟัน 2 หรือ 3 อัน
  6. ถูเกลือเล็กน้อยและผงกระเทียมเล็กน้อยที่ด้านนอกของไก่แต่ละม้วน แล้วราดด้วยน้ำมันมะกอกกระเทียมเล็กน้อย
  7. วางม้วนไก่ยัดไส้ลงในจานอบที่ใช้เตาอบและปิดด้วยกระดาษฟอยล์
  8. นำเข้าอบประมาณ 25 – 30 นาที หรือจนกว่าไก่จะสุก
  9. ค้นพบและเปลี่ยนการตั้งค่าเตาอบเพื่อย่าง/ย่างบนไฟร้อนปานกลาง และย่างไก่ของคุณต่อไปอีก 5 นาทีในแต่ละด้าน หรือจนกว่าแต่ละม้วนจะมีสีสวยงามและมีสีทอง

* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

Credit  แทงบอลออนไลน์

* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *